ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับอาคารผู้โดยสารสนามบินปักกิ่ง

วางแผนที่จะไปประเทศจีนเร็ว ๆ นี้? ไม่ว่าจะเป็นเพื่อวันหยุดหรือธุรกิจถ้าคุณใช้เครื่องบินจะพาคุณไปที่สนารสนามบินปักกิ่ง (BCIA) เป็นประตูสู่จีนไม่ว่าคุณจะมาจากไหน

คุณสามารถจินตนาการได้ว่าเที่ยวบินที่มีให้บริการทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นอย่างไร ถ้าคุณไม่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้คุณต้องคาดเดาสิ่งที่อาจเกิดขึ้นหลังจากก้าวเท้าออกจากเครื่องบิน

ประวัติศาสตร์

ท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่งได้เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2501 ในตอนแรกมีเพียงอาคารผู้โดยสารขนาดเล็กที่ยังคงให้บริการแก่ผู้โดยสารวีไอพีและเที่ยวบินเช่าเหมาลำ อาคาร 1 ถูกสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคมพ. ศ. 2523 ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาเพื่อเพิ่มผ้ากันเปื้อนและลานจอดรถ

โครงการต่อไปคือการสร้างอาคารผู้โดยสาร 2 เมื่อปีพ. ศ. 2538 ซึ่งเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการในปี 2542 ในขณะที่สถานี 1 ถูกปิดให้บริการเนื่องจากมีการปรับปรุงและเปิดใหม่อีกครั้งในปี 2547 โดยสถานีที่ 3 แห่งที่สร้างขึ้นเมื่อปีพ. ศ. รองรับผู้โดยสารได้ถึง 73,770,000 คนในปีพ. ศ. 2555 ทำให้สนามบินนานาชาติปักกิ่งกลายเป็นเมืองที่คึกคักที่สุดอันดับสองของโลกหลังจากที่สนามบินแอตแลนต้าในสหรัฐ

ทั้งสามอาคารผู้โดยสารารสนามบินปักกิ่ง

อาคารผู้โดยสาร 1 (T1)

เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2523 อาคารนี้ได้รับการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมเช่นที่จอดรถและลานจอดรถ นอกจากนี้ยังเป็นฐานการดำเนินงานสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศทั้งหมดตั้งแต่ปีพ. ศ. 2551 ภายใน 60,000 ตารางเมตรมีขนาดใหญ่

 
อ่าน: 7 สถานที่ต้องไปเที่ยวประเทศจีน

อาคารผู้โดยสาร 2 (T2)

อาคารผู้โดยสาร 2 มีขนาดใหญ่และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยกว่าเมื่อเทียบกับ T1 ซึ่งเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2542 ด้วยขนาด 336,000 ตารางเมตรสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 26,5000,000 คนต่อปีและ 9,210 คนในช่วงเวลาเร่งด่วน . ขอบคุณเส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่าง T1 และ T2 ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางสะดวกสบาย

อาคารผู้โดยสาร 3 (T3)

อาคารผู้โดยสาร 3 ถูกสร้างขึ้นเพื่อคาดการณ์ปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปีพ. ศ. 2551 อาคารขนาดใหญ่แห่งนี้ทำให้ BCA ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับสองของโลก รูปร่างเหมือนมังกร อาคารผู้โดยสาร 3 ประกอบด้วยสามส่วน เป็น T3A หรือหัว, T3B เป็นหางและ T3C หรือร่างกาย นอกจากนี้ยังมีขั้วสัญญาณดาวเทียม 2 ดวง ได้แก่ อาคารผู้โดยสาร 3 มิติและอาคารผู้โดยสาร 3E

สิ่งอำนวยความสะดวก

หิวเมื่อมาถึงสนามบิน? ไม่ต้องกังวล มีร้านอาหารหลายแห่งกระจายอยู่ในอาคารผู้โดยสาร 1 สถานี 2 และสถานี 3 นอกจากนี้คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับเวลาหยุดพักโดยการใช้ประโยชน์จากบริการต่าง ๆของสนามบินเช่น Wi-Fi ศูนย์ธุรกิจศูนย์ออกกำลังกายและเลานจ์

หากคุณต้องการรถยนต์ไฟฟ้า รถเข็นเด็ก skycaps หรือ escorts คุณจะพบพวกเขา นอกจากนี้ยังมีเวลาที่จะเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมทางวัฒนธรรม เช่น ใช้เวลาอย่างเช่นการแสดงเป็นระยะ ๆ โดยคณะศิลปิน Staff Art ใกล้สถานีน้ำพุ อาคารผู้โดยสาร3E

การขนส่ง

มุ่งหน้าไปยังเมืองจากสนามบินได้ง่ายมาก คุณมีทางเลือกในการเดินทางเช่นรถไฟฟ้า Airport Express Line ของปักกิ่ง รถบัส รถแท็กซี่ รถลีมูซีน และรถรับส่งที่ใช้ร่วมกัน นอกจากนี้ยังสามารถเช่ารถได้ แต่ให้แน่ใจว่าคุณมีใบอนุญาตขับขี่ของจีนโดยไม่ได้รับการรับรองจากประเทศ

ข้อกำหนดด้านการเข้าเมือง

จำเป็นต้องมีวีซ่าเพื่อเดินทางไปประเทศจีน นอกจากนี้ยังสามารถพักที่กรุงปักกิ่งได้ 72 ชั่วโมง โดยไม่มีวีซ่า กฎระเบียบนี้ได้รับการเผยแพร่ตั้งแต่ปี 2013 แต่ใช้เฉพาะกับผู้เข้าชมงานจากประเทศต่าง ๆ ได้แก่ ออสเตรียไอซ์แลนด์สเปนรัสเซียสหราชอาณาจักรสหรัฐอเมริกาญี่ปุ่นและสิงคโปร์

คุณสามารถไปที่สถานทูตจีนหรือสถานกงสุลใกล้กับสถานที่ของคุณเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดเรื่องการเข้าเมืองนี้

พร้อมที่จะไป?

เวลาที่ดีที่สุดในการไปเยือนประเทศจีนคือช่วงฤดูใบไม้ร่วง ระหว่างเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม คุณสามารถคาดหวังกับสภาพอากาศที่อบอุ่นในช่วงวันที่อากาศแจ่มใสและเย็นกว่า ไม่ว่าคุณจะมาจากไหนให้พึ่งพาการจองตั๋วเครื่องบินที่ Airpaz ซึ่งมีราคาถูก